สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศเวียดนาม เวียดนามเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยว
ที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาด เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ วันนี้พวกเราก็ได้นำมาฝากให้เพื่อนๆได้รู้จักกัน ค่ะ
|
อ่าวฮาลองเบย์
1.อ่าวฮาลองเบย์ ( Ha Long Bay ) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางธรรมชาติแห่งหนึ่งที่มีบรรยากาศที่สวยงามที่สุดและยังมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์มีทรัพย์กร พันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์มากมาย จนยูเนสโก ยกย่องให้เป็นมรดกโลก อ่าวนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม และอยู่ไม่ห่างจากเขตแดนของประเทศจีนมากนัก จุดเด่นของ อ่าวฮาลองเบย์ คือ มีเกาะหินปูนโผล่ขึ้นกระจายทั่วรอบๆอ่าว และยังครอบคลุมพื้นที่ถึง 1500 ตารางกิดลเมตร
สุสานโฮจิมินห์
2.สุสานโฮจิมินห์ ( Ho Chi Minh's Mausoleum ) เป็นสุสานบรรจุศพตั้งอยู่ที่ "จัตุรัสบาริงห์" เมืองฮานอย เปิดทำการวันจันทร์-วันพฤหัสบดี และวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 80.00-11.00 น. สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสุสาน ต้องสวมเครื่องแต่งกายที่สุภาพ เรียบร้อย(ห้ามสวมเสือแขนกุด โปรงสั้นเหนือเข่า และกางเกงขาสั้น) ภายในอนุสาวรีย์มีโลงแก้วบรรจุร่างของ โฮจิมินห์ หรืออดึตนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารญรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แต่คนเวียดนามมักเรียกกันว่า ลุงโฮ ส่วนรูปแบบสถาปัตยกรรมนั้นยึดโมเดลมาจาก อนุสาวรีย์บรรจุศพของ วลาดีมีร์ เลนิน ในประเทศรัสเซีย โยทุกๆปีร่างของ " ลุงโฮ " จะถูกส่งไปตรวจสอบความสมบูรณ์ที่ ประเทศรัสเซีย
พระราชวังเว้
3.พระราชวังเว้ (Complex of Hue Monuments ) พระราชวังเว้
หรือเมืองหลวงแห่งเมืองเว้ ของราชวงศ์เหงียน (Nguyen
Dynasty) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ในรัชกาลแห่งพระเจ้ายาลอง (Gia Long) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เหงียน
สถานที่แห่งนี้นับว่าเป็นหัวใจสำคัญของของเมืองมาหลายยุคสมัยแม้ในปัจจุบันพระราชวังได้กลายสภาพจากศูนย์กลางราชอาณาจักรไปเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในฐานะ1ใน
3 ของมรดกโลกในเวียดนาม พระราชวังเว้มีกำแพงโดยรอบที่วัดความยาวได้ราวๆ 2.5
กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนหน้า ส่วนกลาง และส่วนในอันเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ ซึ่งปัจจุบันยังคงหลงเหลือให้เห็น
ภายในประกอบไปด้วย พระราชวัง สุสานของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ เจดีย์ วัดวาอาราม
ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างต่างๆ เมื่อเราเดินผ่านประตูเที่ยงวัน (Cua
Ngo Mon) ก็จะพบสะพานน้ำทองที่ทอดตรงเข้าไปสู่พระราชวังไท
ฮวา หรือที่เรียกว่า ท้องพระโรง ใช้ต้อนรับพระราชวงศ์ชั้นสูงและทูต
ที่นี่มีเสาไม้สีแดงต้นใหญ่มากมาย
ทั้งหมดเขียนลายมังกรสีเหลืองด้วยเทคนิคงานเครื่องรักเขียนสีแบบเวียดนาม
เมื่อทะลุผ่านไปจะพบลานกว้าง มีอาคารชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้องแบบจีนอยู่ทางขวาคือส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์
จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของราชสำนักเวียดนาม ซึ่งนอกจากพระราชวังที่ก่อสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว
ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้กันจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
พิพิธภัณฑ์สงคราม
4.พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum)เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 โดยใช้ชื่่อว่า Museum of American War Crimes ตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 07.30-12.00 น. และ 13.00-17.00 น. เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงความเจ็บปวด ความเศร้าโศก เมื่อครั้งสงครามเวียดนาม ภายในมีการจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์ ขีปนาวุธ รถถัง เครื่องบินจู่โจม ฯลฯ ซึ่งอาวุธเหล่านั้นเป็นอาวุธที่ทหารอเมริกันใช้โจมตีเวียดนาม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูกกล่าวขานถึงมากที่สุดในพิพิธภัณฑ์ คือ กรงเสือ ที่นำมาใช้เป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองถึง 14 คน รวมถึงเครื่องประหารชีวิตนักโทษการเมืองก็เป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดลึก ๆ ในหัวใจของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี
ภูเขาทรายสีที่หมุยแหน
5.ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน (The Sand Dunes of Mui Ne)นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เพราะภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายคนคุ้นเคยกับสำเนียง "มุยเน่" นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ติดกับชายทะเล จึงมีแดดและลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่ง คือ ภูเขาทรายขาวและภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของช่างภาพ เนื่องจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ภูเขาทรายเปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยว คือ ช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะตอนกลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมาก
อุโมงค์กู๋จี
6.อุโมงค์กู๋จี (Cu Chi
Tunnels) อุโมงค์ถู่จี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโฮจิมินห์ 70 กิโลเมตร และเปิดให้บริการตลอดทั้งปี อุโมงค์แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม ใช้เป็นที่หลบภัยจากระเบิด ที่สำหรับประชุมของกองกำลังเวียดกงในสมัยที่รบกับสหรัฐอเมริกา อุโมงค์ถูกสร้างขึ้นให้มีหลายชั้นและแต่ละชั้นจะมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อความอยู่รอดของทหาร ภายในอุโมงค์ประกอบไปด้วยโรงพยาบาล ห้องประชุม และห้องพัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจะได้รับชมหนังสั้นที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามเวียดนามก่อน เพื่อจะได้เข้าใจความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเวียดนาม เด็ดๆสวยๆกันเลยใช่ไหมคะ มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นธรรมชาติและประวัติศาสตร์อีกด้วย ถ้าพี่ๆเพื่อนๆคนไหนมีโอกาศได้ไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนามก็ลองไปดูสถานที่ที่พวกเราแนะนำกันนะคะ
ขอขอบคุณเว็บไซด์
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น